เพื่อนไม่ว่างก็ไม่เป็นไรไป กินเบียร์คนเดียว ที่ EST.33 ก็ชิลได้ไม่แพ้กัน

Home » Blog » เพื่อนไม่ว่างก็ไม่เป็นไรไป กินเบียร์คนเดียว ที่ EST.33 ก็ชิลได้ไม่แพ้กัน

เคยไหม? ที่บางครั้งคุณเกิดอารมณ์สุนทรีย์ อยากชวนเพื่อนไปนั่งจิบเครื่องดื่มชิล ฟังเพลงดนตรีสด ในบรรยากาศสบายๆ แต่ไม่ว่าจะนัดเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่างมาแฮงเอาท์ด้วยกันซักที เอาละ…อย่ามัวน้อยใจงอนเพื่อนให้เสียเวลา เพราะวันนี้เราจะมาชี้เป้าร้านนั่งชิลที่คุณสามารถไป กินเบียร์คนเดียว ได้แบบไม่ต้องเขินอาย แถมยังมีเครื่องดื่มและอาหารมากมายให้เลือกสั่งมาชิมกัน แล้วทั้งหมดนั้นยังรสเด็ดแซ่บนัวได้ใจ รับรองว่าไปคนเดียวก็เพลินได้ไม่มีคำว่าเซ็งอย่างแน่นอน

ร้านนั่งชิล กินเบียร์คนเดียว แบบไม่ง้อเพื่อนเที่ยวในวันนี้ คือร้านบรรยากาศสุดชิคที่ชื่อว่า EST.33 ซึ่งเค้ามีเปิดให้บริการกัน 2 สาขา ที่ The Nine พระราม 9 และที่ CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งวันนี้เราขอเลือกชวนมาปักหมุดที่ร้าน EST.33 สาขา The Nine กัน

ความเด็ดของ EST.33 ที่ถูกใจเราตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เดินเข้าไป ก็คือคอนเซ็ปท์การตกแต่งที่ให้บรรยากาศไม่เหมือนร้านไหนๆ ที่เคยไปเช็คอินมา เพราะที่ร้านนี้เค้าเนรมิตตัวร้านให้เหมือนกับเรากำลังได้ไปนั่งดริ๊งค์กันอยู่กลางโรงบ่มเบียร์เลยเชียวละ ที่นี่จะให้อารมณ์ดิบๆ เท่ๆ เน้นการตกแต่งด้วยเหล็กและไม้ ให้อารมณ์แนว Factory ที่คูลๆ หน่อย ตัวไฮไลท์ของร้านนี้จะอยู่ที่ถังบ่มเบียร์ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งเรียงกันอยู่ถึง 12 ถัง ถือว่าเป็นการ decorated ที่น่าตื่นตาตื่นใจและไม่เหมือนร้านนั่งชิลร้านไหนๆ ที่เราเคยไปเช็คอินมาเลย

ข้อดีอีกอย่าง คือ มีมุมเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งเหมาะกับการมานั่งจิบเครื่องดื่มซึมซับบรรยากาศไปพร้อมกับการนั่งดูบาร์เทนเดอร์ทำงานแบบสุดเพลินเลยเชียวละ ขอบอกว่าเป็นมุมดีที่เหมาะกับการแวะมานั่ง กินเบียร์คนเดียว ได้แบบไม่ต้องเขินอาย เผลอๆ ได้นั่งจิบเบียร์ไปคุยกับบาร์เทนเดอร์ไป หรืออาจจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ที่นั่งข้างๆ กัน ได้สร้างคอนเนกชั่นเพิ่มเติมกับผู้คนหลากหลาย การไป กินเบียร์คนเดียว ก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะ รู้ยัง?

ได้เวลามาส่องดูเมนูเครื่องดื่มของร้านนี้กันบ้างดีกว่า เริ่มกันจากเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่ายืนหนึ่งของร้านอย่างเบียร์ เพราะที่นี่เค้าเป็นร้านที่อยู่ในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่ ใครเป็นคอเบียร์มาที่นี่จึงมั่นใจได้เลยว่าไม่มีผิดหวัง แถมนอกจากคราฟท์เบียร์ตัวเด็ดทั้งหลายแล้ว เค้ายังมีซิกเนเจอร์ เบียร์ ค็อกเทล / ฟรุตตี้ เบียร์ ค็อกเทล และอาหารที่มีส่วนผสมของเบียร์ให้ได้ชิมกันอย่างจุใจ นอกจากจะไม่เหมือนใครแล้วรสชาติยังนับว่าไม่ธรรมดา พร้อมแล้วมาลุยกันได้เลย!

เริ่มต้นกันแบบเบาๆ กับเครื่องดื่มสีสวยรสอร่อยกินง่าย ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเครื่องดื่มรสเข้มแรงถึงอกถึงใจเท่าไหร่นัก ขอแนะนำให้ลอง ฟรุตตี้ เบียร์ ค็อกเทล ซึ่งมีคราฟท์เบียร์ตัวยืนอย่าง Kopper และ Snowy ที่รสเบา ดื่มง่าย เพิ่มความหอมหวานด้วยการนำไปผสมกับผลไม้นานาชนิด ทั้งลิ้นจี่, Japanese Plum, เสาวรส, พีช และสตรอว์เบอร์รี่ โดยแต่ละชนิดก็จะให้รสชาติที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจแตกต่างกันไป เซ็ตนี้จะให้ทั้งความเพลินและชื่นใจ รับประกันว่าจะทำให้คุณนั่ง กินเบียร์คนเดียว ไปได้แบบยาวๆ เลยเชียว

สำหรับคนที่ชอบความเข้มขึ้นมาอีกนิด อยากชวนให้ลองเซ็ตซิกเนเจอร์ เบียร์ ค็อกเทล ซึ่งจะให้รสชาติที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับหนักมาก เพราะเค้านำคราฟท์ เบียร์ ดื่มง่ายอย่าง Snowy และ Kopper มาใช้เป็นตัวหลักยืนพื้นอีกเช่นกัน เพียงแต่จะนำไปมิกซ์กับไซรัปที่เพิ่มกลิ่นหอมดึงดูดในแนวอโรม่ามากกว่ากลิ่นหอมหวานแบบผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น Lemongrass Syrup และ Ginger Syrup ที่อยู่ในแก้วที่ชื่อว่า Lemongrass และ Ginger Spice / Passion Fruit และ Lime ที่อยู่ในแก้วที่ชื่อว่า Spring Summer / Mint และ Brown Sugar ที่อยู่ใน Maltjito และ Pink Blossom ที่ผสานความหอมของ Pink Grapefruit และ Elder Flower ลงไป ทุกแก้วให้ฟีลลิ่งที่แตกต่างแต่ยังคงความดื่มง่าย ชอบสไตล์ไหนก็สั่งมาลองชิมกันได้เลย

และถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลการดื่มด่ำรสชาติเข้มข้นแต่ผสมผสานความละมุนละไมที่ใช้วัตถุดิบชั้นดี ผ่านขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพในระดับมาตรฐานโลกที่มั่นใจได้ แนะนำให้ลองสั่งคราฟท์ เบียร์ ของร้านนี้มาลองกัน แม้ว่าที่ EST.33 จะมีเบียร์รสชาติใหม่ๆ หมุนเวียนมาให้ชิมกันได้ในหลายเทศกาล แต่ที่เป็นตัวหลักยืนพื้นและมีให้ชิมกันตลอดเวลา ก็ต้องยกให้กับเซ็ตคราฟท์ เบียร์ ยอดฮิตที่มีทั้ง Snowy / Kopper / Lager / 33 Pale Ale และ Hof ซึ่งชนิดสุดท้ายนี้คือเบียร์รสดีในรูปแบบของ Alcohol Free จึงเหมาะกับคนที่ขับรถไป กินเบียร์คนเดียว แบบสุดๆ เชียวละ และยังเหมาะกับคนที่อยากดื่มเบียร์แบบรักษาสุขภาพ เพราะเบียร์ประเภท Alcohol Free นั้นจะมีปริมาณแคลอรี่ที่ค่อนข้างต่ำและยังไม่ทำให้เกิดอาการแฮ็งค์หลังดื่มอีกด้วยนะ ในขณะที่ยังคงกลิ่นและรสซึ่งสร้างความสดชื่นของเบียร์ปกติเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ใครอยากไป กินเบียร์คนเดียว แล้วกลับบ้านแบบสติครบครัน ปักหมุด Hof แก้วนี้กันไว้เลย

นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีเบียร์เป็นส่วนผสมหลักแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มอีกหลายแก้วที่น่าสนใจ ใครเป็นสายค็อกเทลที่ EST.33 เค้าก็มีค็อกเทลว้าวๆ ให้เลือกชิมกันได้นะ ไม่ว่าจะเป็น The ESTer ที่มีส่วนผสมของราสพ์เบอร์รี่ วานิลลา และวอดก้า Shanghai Sexy ที่ใช้ Red Plum ชาอู่หลงกุหลาบ และวอดก้า เป็นตัวหลัก หรือจะเป็น Green Devil ที่นำความสดชื่นของแอปเปิ้ลเขียว สับปะรด และมะนาว ที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน มาผสมผสานกับวอดก้า นี่แค่ตัวอย่างเท่านั้นนะ เพราะยังมีอีกหลายแก้วที่น่าสนใจ ใครอยากลองแนะนำให้ไปเปิดเมนูเลือกดูกันที่ร้านด้วยตัวเองก็แล้วกัน

ปิดท้ายกันกับคนที่อยากมี feel แบบหนีไปนั่งชิลจิบเบียร์คนเดียว บ้าง แต่ไม่ค่อยสันทัดกับบรรดาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เท่าไหร่นัก แนะนำให้ลองชิม Mocktail ของร้านนี้ เพราะเค้ามีให้เลือกกันหลากหลาย นอกจากม็อกเทลที่เน้นการใช้น้ำผลไม้เป็นหลักแบบที่คุ้นเคยกันดีแล้ว ที่นี่ยังมีม็อกเทลสำหรับคนรักคาเฟอีนอย่าง Black Passion ซึ่งใช้เสาวรส ชาอู่หลงเลมอน และกาแฟดำ มาผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ และสำหรับสายชา Coco Matcha คือตัวเลือกที่ดีงาม เพราะในแก้วนี้จะใช้ชาเขียว น้ำมะพร้าว และกะทิ มามิกซ์กันจนได้รสเข้มข้นหอมมัน รับประกันว่าถึงไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็มาชิลที่ EST.33 กันได้แบบเพลินๆ

และทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มน่าสนใจที่มีเสิร์ฟให้สั่งมาชิมกันได้ที่ EST.33 กินเบียร์คนเดียว ในวันที่อยากได้ความชิลแบบสุดๆ ก็ได้ หรือจะแวะมานั่งหาของอร่อยกินเป็นมื้อหลักที่นี่เค้าก็มีให้เลือกชิมกันหลากหลายเลยเชียวละ ถ้าวันนี้คุณอยากออกไปนั่งเสพบรรยากาศดีๆ แต่ไม่มีเพื่อนไป แนะนำให้ลุยเดี่ยวไปที่ร้านนี้ได้เลยแบบไม่ต้องลังเล รับรองว่าได้นั่งเพลินๆ แบบไม่ต้องเขินอาย ถ้าอยากไป ต้องได้ไป!

แผนที่  แฮงเอาท์  ร้าน EST.33 สาขา CDC : Google Maps
แผนที่  แฮงเอาท์  ร้าน EST.33 สาขา The Nine พระรามเก้า : Google Maps
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.