ชวนไปจิบ ค็อกเทล พร้อมดินเนอร์แสนอร่อย ไปกับเพื่อนก็ดี ไปกับคนรู้ใจก็ฟิน!
ปลายปีทีไร ลมเย็นพัดผ่านมาบ้างให้เราได้สัมผัสกันบ้าง ถือเป็นช่วงที่เหมาะกับการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ช่วงนี้เราจึงจะได้เห็นผู้คนออกมาเดินเล่น นั่งจิบเครื่องดื่ม หรือนั่งฟังเพลงกินอาหารตามร้านต่างๆ กันอย่างหนาตา และถ้าคุณคือคนหนึ่งที่กำลังมองหาร้านดีๆ ไว้ดินเนอร์กับคนรู้ใจ หรือมีแพลนจะไปแฮงเอาท์กับแก๊งเพื่อนช่วงค่ำๆ หลังเลิกงาน วันนี้เราขอแนะนำร้านเด็ดบรรยากาศดีที่เหมาะจะจูงมือที่รักไปนั่งจิบ ค็อกเทล พร้อมดินเนอร์มื้อประทับใจ หรือจะไปจิบเบียร์เชียร์บอลกับเพื่อนแบบสุดมันก็ได้ แบบไหนก็ฟินหมด เชื่อเรา!
ร้านที่เราพูดถึงก็คือ EST.33 ร้านสุดชิคบรรยากาศสุดเริ่ดที่ตั้งอยู่ใน 2 โลเคชั่น ที่แรกคือ The Nine พระรามเก้า ซึ่งสาขานี้จะให้อารมณ์คูลๆ เท่ๆ เหมาะกับคนที่อยากได้ Feeling แบบสนุกสนานคึกคักมีชีวิตชีวา ด้วยการตกแต่งใน Theme ที่เหมือนการยกโรงงานผลิตเบียร์ไซส์มินิมาไว้ที่นี่ โดยจะเป็นอารมณ์วินเทจนิดๆ เพราะเค้าจำลองการตกแต่งของโรงเบียร์ในยุค ค.ศ.1933 ด้านในร้านมีทั้งโต๊ะสำหรับคนที่ไปเป็นกลุ่มใหญ่ ไปเป็นคู่ หรือจะนั่งจู๋จี๋จิบ ค็อกเทล คุยกันแบบไหล่กระทบไหล่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยเชียวละ
อีกสาขาของ EST.33 นั้น อยู่ใน CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา แอบกระซิบนิดนึงว่าถ้าอยากไปนั่งดินเนอร์จิบ ค็อกเทล รับลม outdoor ในบรรยากาศโล่ง โปร่ง สบาย สาขานี้น่าจะถูกจริตถูกใจคุณแน่ๆ ตัวร้านมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีสนามหญ้าและสระน้ำให้นั่งซึมซับอารมณ์ของความผ่อนคลาย โซนด้านในก็มีให้เลือกหลายบรรยากาศ ทั้งแบบคึกคักและแบบให้ความรู้สึกส่วนตัวไม่แออัดเกินไป ช่วงนี้ถึง 31 ธันวาคม สาขานี้มีลานเบียร์ให้ไปนั่งเสพความชิลล์กันได้ด้วยนะ หรือใครอยากพาครอบครัวที่มีผู้ใหญ่และเด็กๆ ไปหาร้านอร่อยฉลองวันปีใหม่ ปักหมุดสาขานี้เอาไว้ได้เลย
เมื่อเลือกสาขาที่บรรยากาศถูกใจกันได้แล้ว ก็ได้เวลามาส่องเมนูคู่มื้ออร่อยคราวนี้กันซักหน่อยดีกว่า ไหนๆ ก็จั่วหัวไว้แล้วว่าจะชวนมาจิบ ค็อกเทล กัน เลยอยากเปิดประเดิมด้วยการแนะนำเมนู ค็อกเทล ของร้าน EST.33 ก่อนอื่นใด จริงๆ แล้วที่ร้านนี้เค้ามีให้เลือกสั่งมาชิมกันหลายแบบหลายสูตรเลยนะ แต่จะขอยกตัวอย่างมาแนะนำกันซักสองแก้วพอให้คุณได้ใช้เป็น Guideline แก้วแรกที่ไม่อยากให้พลาดก็คือซิกเนเจอร์ ค็อกเทล ที่ชื่อว่า The ESTer ที่มาพร้อมกับสีแดงเข้มสวยฉ่ำน่ายกซดให้ชื่นใจ แก้วนี้จะมีส่วนผสมของ Raspberry Juice, Vanilla, Lemon และ Vodka จึงทั้งหวาน หอม และให้ความสดชื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้จิบลงคอ
ค็อกเทล อีกแก้วที่อยากแนะนำให้ลองสั่งมาชิมกันโดยเฉพาะสำหรับคุณสาวๆ นั้นจะดูเก๋มากเมื่อจิบแก้วนี้ นั่นก็คือ Shanghai Sexy ซึ่งเป็น ค็อกเทล สีชมพูสวย ที่มีส่วนผสมของ Red Plum, Rose Oolong Tea, Lime, Vodka และ Triple Sec เสิร์ฟมาแบบสวยๆ ในแก้วมาร์ตินี่มีสไตล์ สาวคนไหนสั่ง ค็อกเทล แก้วนี้มาจิบระหว่างมื้อพิเศษกับคนรู้ใจ รับรองได้ว่าปังแน่นอน!
สำหรับคอเบียร์ที่อยากชิมรสชาติใหม่ๆ ร้านนี้เค้ายังมีเมนูเครื่องดื่มที่นำเบียร์ไปมิกซ์กับส่วนผสมต่างๆ ซึ่งสร้างความสดชื่นในการดื่มให้มากกว่าที่เคยด้วยนะ สำหรับคนที่อยากสัมผัสกับความสดชื่นของผลไม้ แนะนำให้ลองสั่ง ฟรุตตี้ เบียร์ ค็อกเทล มาชิมกัน เซ็ตนี้เค้าจะนำคราฟท์เบียร์ไปผสมกับความหวานหอมของผลไม้ โดยมีให้เลือกกันทั้งสตรอว์เบอร์รี่, พลัมญี่ปุ่น, พีช, เสาวรส และลิ้นจี่ ใครอยากชิมเบียร์รสหวานอมเปรี้ยวดื่มง่าย แนะนำให้ลอง
อีกเซ็ตสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับรสชาติของเบียร์ที่เข้มข้นขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังติดใจกลิ่นหอมอโรม่าซึ่งหาชิมไม่ได้จากที่ไหน แนะนำให้ลองสั่ง ซิกเนเจอร์ เบียร์ ค็อกเทล ของร้านนี้มาชิมกัน เพราะเซ็ตนี้จะนำคราฟท์เบียร์ตัวเด็ดๆ ไป mix กับผลไม้และสมุนไพรที่ให้กลิ่นหอมแนวผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นไซรัปตะไคร้, ไซรัปขิง, มิ้นท์, เกรปฟรุ้ตสีชมพู และเอลเดอร์ ฟลาวเวอร์ – – ค็อกเทล เซ็ตนี้เหมาะกับคนที่ชอบเครื่องดื่มกลิ่นเบาๆ แต่ก็ยังอยากสัมผัสรสชาติของคราฟท์เบียร์แบบเต็มที่ เชื่อว่าได้ชิมแล้วจะแฮปปี้แน่นอน
นอกจากเมนู ค็อกเทล แล้ว สำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ร้านนี้เค้าก็ยังมีม็อกเทลให้คุณออเดอร์มาชิมกันได้ด้วยนะ รับรองว่าทุกแก้วนั้นทั้งสวยทั้งอร่อยไม่แพ้ ค็อกเทล เลยละ ไม่ว่าจะเป็น Berry Refresh สีชมพูสวยใส, The Best Lover ที่ในแก้วนั้นมีทั้งกีวี่สด น้ำเสาวรส มะนาว และอัญชัน แค่ส่วนผสมก็น่ายกมาจิบกันแล้วละ นอกจากนั้นยังมีม็อกเทลสำหรับคอชาและกาแฟให้ชิมกันด้วยนะ ใครไม่ถนัดจิบแอลกอฮอล์ ขอให้ไปลอง!
ได้ ค็อกเทล ที่ทั้งสวยทั้งอร่อยถูกใจแล้ว ขอแนะนำตัวอย่าง 3 เมนูอาหารที่ทั้งหน้าตาและรสชาติดูดีเหมาะกับดินเนอร์มื้อพิเศษคราวนี้กันบ้างดีกว่า จานแรกเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่สวย อร่อย และกินง่าย นั่นคือ สลัดทูน่าราดน้ำยำและบัลซามิก จานนี้เสิร์ฟเนื้อทูน่าชิ้นใหญ่ๆ ที่นำไปผ่านความร้อนนิดหน่อยจนได้สีสันสวยงามแต่ยังคงความหวานฉ่ำของเนื้อทูน่าเอาไว้อย่างครบถ้วน เพิ่มรสชาติให้เข้มข้นด้วยน้ำยำรสแซ่บแบบไทยๆ แถมเติมความน่าสนใจด้วยบัลซามิกรสละมุน กินพร้อมผักสดที่เสิร์ฟเคียงมา ถือเป็นจานเริ่มต้นมื้อดินเนอร์ที่รับรองว่ากินเพลินจริงๆ
เมนูต่อมา ขอแนะนำเมนูฟิวชั่นที่นำเมนูระดับโลกของไทยมาตกแต่งหน้าตาให้ดูดีมีสไตล์ได้อารมณ์แบบ Fine Dining สุดๆ นั่นคือ ข้าวซอยเนื้อน่องลายกับเส้นเฟตตูชินี่ จานนี้ใช้เนื้อน่องลายที่นำไปตุ๋นถึง 6 ชั่วโมง จนได้เนื้อที่นุ่ม ชุ่มรสชาติ ราดด้วยซอสข้าวซอยรสเข้มข้นถึงใจ เติมความอินเตอร์ด้วยการเสิร์ฟพร้อมกับเส้นเฟตตูชินี่ที่สุกพอดีไม่แข็งจนเกินไป เป็นเมนูอร่อยที่หลายคนต้องประทับใจไปอีกนาน
จานสุดท้ายในวันนี้ ขอแนะนำเมนูอร่อยแบบพื้นบ้านที่เห็นได้ทั่วไป แต่ถูกจับมาแต่งหน้าแต่งตัวซะใหม่ให้สวยจนจำไม่ได้เลยเชียวละ ก็ดูแค่หน้าตา ใครจะรู้ว่านี่คือปลานึ่งจิ้มแจ่วกับข้าวเหนียวจี่! เพราะที่ EST.33 เค้าเล่นเอาเมนูธรรมดามาจัดแต่งหน้าตาให้เหมาะกับการดินเนอร์พร้อมจิบ ค็อกเทล แบบสวยเก๋ไม่เหมือนใคร จานนี้ใช้เนื้อปลากะพงชิ้นใหญ่นึ่งมาสุกฉ่ำน้ำไม่แห้งกระด้าง วางบนข้าวเหนียวจี่สีเหลืองทองน่ากิน เคียงด้วยผักแนมและที่ขาดไม่ได้ก็คือน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บนัวได้ใจ จิบ ค็อกเทล ไปพร้อมดินเนอร์ปลานึ่ง ข้าวเหนียวจี่ และน้ำจิ้มแจ่วไป เก๋จะตาย! แถมบอกได้ว่าอร่อยเข้ากันอย่างน่าตกใจเลยเชียว!
และทั้งหมดนี้คือบางส่วนของเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจในร้าน EST.33 เท่านั้น จริงๆ แล้วที่นี่ยังมีเมนูเด็ดรอให้ไปชิมกันอีกเพียบเลยละ ช่วงปลายปีแบบนี้จนถึงวันที่ 7 ม.ค.67 เค้ามีโปรเด็ดชื่อเก๋อย่าง Dark Wednesday ที่ใ้ห้คุณได้ชิมรสชาติความละมุนน่าค้นหาของเครื่องดื่มใหม่ที่ชื่อ ‘Wednesday’ ซึ่งจะจับคู่มากับ Smoked Meat Platter ซึ่งเป็นเนื้อรมควันถึง 3 สไตล์ สูตรลับที่ได้เชฟเอิ๊ก แห่ง The Pit Master มาดีไซน์ให้ เซ็ตนี้คุณอิ่มอร่อยกันได้ในราคา 990 บาทเท่านั้น!
และถ้าคุณกำลังมองหาร้านเด็ดไว้เคาทน์ดาวน์รับปีใหม่ ที่ EST.33 ทั้งสองสาขาเค้าก็มีคอนเสิร์ตให้คุณได้สนุกส่งท้ายปี โดยที่ CDC จะได้เจอกับ Earth และที่ The Nine จะได้เจอกับ Aliz ด้วยนะ อากาศกำลังสบายแบบนี้ ลองชวนครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้ใจ ไปหาของอร่อยกินกันในบรรยากาศดีๆ เชื่อว่าจะเป็นการเปิดปีใหม่ที่แสนจะแฮปปี้แบบที่ทุกคนต้องถูกใจ!
- แผนที่ ร้าน EST.33 สาขา CDC เลียบทางด่วน รามอินทรา >> https://goo.gl/maps/2wrDkKVC1kf3k2Nv5
- แผนที่ ร้าน EST.33 สาขา The Nine พระรามเก้า >> https://goo.gl/maps/UueGAxhanWzYGgwe6
- เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.
- โทร.093-193-193