เปิดความอร่อยรับต้นปีด้วยร้าน คราฟเบียร์ Craft Beer บรรยากาศดี พร้อมเมนูฟิวชั่นแบบสุดปัง!
ได้เวลาสนุกแล้ว เทศกาลแห่งความชิล ลานเบียร์ คราฟเบียร์ ต้องจัดเต็ม และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงรอยต่อระหว่างปีเก่าและปีใหม่นั้น จะเป็นช่วงที่บรรยากาศแสนจะมีชีวิตชีวาที่สุดของปี เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว ทุกที่ยังเต็มไปด้วยแสงสีและอารมณ์ของการเฉลิมฉลองซึ่งฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไปรอบด้าน บรรยากาศแบบนี้เหมาะกับการออกไปชิลนอกบ้านแบบสุดๆ
วันนี้เลยอยากจะชวนไปหาของอร่อยนอกบ้านกินกัน กับร้านสุดชิคที่เก๋ไม่เหมือนใคร แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องของ คราฟเบียร์ ที่ใครได้ชิมก็ติดใจกันทั้งนั้น ไปนั่งชิลจิบ คราฟเบียร์ เย็นๆ คู่เมนูฟิวชั่นที่อร่อยแตกต่างอย่างมีสไตล์ บอกได้คำเดียวว่า…ดีงาม!!
เมื่อเอ่ยถึง คราฟเบียร์ ก็ต้องมี EST.33 ติดทำเนียบร้านเด็ดในอันดับต้นๆ เลยละ เพราะนี่คือร้านในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่ที่ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร ในเรื่องเครื่องดื่มมีฟองทั้งหลาย เพราะฉะนั้น มั่นใจได้เลยว่าจะมีสารพัด คราฟเบียร์ รสดีที่น่าสนใจให้คุณแวะมาชิมกันได้แบบฉ่ำๆ เลยนะ แค่เดินเข้าร้านไปเห็นการตกแต่งในสไตล์ไม่ซ้ำใคร ก็น่าจะทำให้เหล่าคนรักเบียร์แฮปปี้กันแล้วละ เพราะ EST.33 ทั้ง 2 สาขา เน้นบรรยากาศที่ให้อารมณ์เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในโรงงานเบียร์ยังไงยังงั้นเชียวคุณ!
อย่างสาขา The Nine พระรามเก้า จะได้แรงบันดาลใจมาจากโรงงานผลิตเบียร์ของบุญรอดบริวเวอรี่ในช่วงปี ค.ศ.1933 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทก่อตั้งขึ้นมา สาขานี้จึงจะให้อารมณ์เท่ๆ ดิบๆ สไตล์โรงงานที่เน้นการตกแต่งด้วยเหล็กและไม้ โดยมีไฮไลท์เป็นถังบ่มเบียร์เรียงรายกันถึง 12 ถัง เรียกว่าเดินเข้าร้านแล้วก็เหมือนกับการได้วาร์ปเข้าไปในโรงงานจริงๆ เลยเชียวนะ ใครเป็นสายแชะรูปชอบการโพสต์ท่าเช็คอินกับแบ็คกราวนด์เก๋ๆ น่ะ มาสาขานี้ถูกใจแน่นอน
ส่วน สาขา CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา ให้อารมณ์สบายๆ ละมุนละไมกว่าสาขา The Nine เพราะมีพื้นที่กว้าง มีจุดพักสายตาอย่างสนามหญ้าและน้ำพุกลางสระน้ำสวยๆ คอนเซ็ปท์การตกแต่งของสาขานี้นั้นเน้นไปที่การให้ความรู้ในเรื่องของการผลิตเบียร์เป็นหลัก มุมต่างๆ ของที่นี่จึงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย บางมุมก็ให้อารมณ์เหมือนได้นั่งอยู่ในห้องรับแขกหรือห้องสมุดแบบเท่ๆ เหมือนกันนะ ไฮไลท์ของสาขานี้คือการที่เค้ามีถังบ่มเบียร์แบบใส (Crystal Microbrewery) ที่ใช้งานได้จริงอยู่กลางร้าน คุณจึงจะได้เห็นกระบวนการผลิต คราฟเบียร์ กันแบบเต็มๆ ตา แค่มานั่งดูก็เพลินแล้วละ เรารับรอง
Fruity Beer Cocktail
เกริ่นเรื่องบรรยากาศกันไปแล้ว ก็ได้เวลามาพูดถึง คราฟเบียร์ ซึ่งเป็นพระเอกของร้าน EST.33 กันบ้างดีกว่า ที่ร้านนี้เค้ามีเบียร์ให้ชิมกันได้หลายรูปแบบหลาย Level เลยนะ ใครอยากจิบเบียร์ที่ให้รสชาติสดชื่นเหมือนได้กินผลไม้ แนะนำให้ลองสั่ง Fruity Beer Cocktail มาชิมกัน เซ็ตนี้ที่ร้านเค้าจะเอา คราฟเบียร์ รสเบาๆ ไปมิกซ์กับผลไม้อย่างลิ้นจี่ พลัมญี่ปุ่น เสาวรส พีช และสตรอว์เบอร์รี่ จนได้ คราฟเบียร์ ที่กินง่าย กินเพลิน แต่กินมากๆ ก็เดินเซได้เหมือนกันนะ อย่าประมาทเชียว!
Signature Beer Cocktail
ขยับ Level กันขึ้นมาอีกนิดกับ คราฟเบียร์ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เซ็ต Signature Beer Cocktail เซ็ตนี้เป็น คราฟเบียร์ ที่ทางร้านนำไปผสมผสานกับผลไม้และสมุนไพร จนได้เป็น คราฟเบียร์ ที่มีกลิ่นและรสเฉพาะตัวอย่างมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปผสมกับ Ginger Syrup, Lemongrass Syrup, Mint, Elder Flower และอื่นๆ อีกมากมาย จนได้ออกมาเป็นเมนู คราฟเบียร์ ที่ให้กลิ่นหอมแบบผ่อนคลาย ชื่นใจ และรสชาติละมุนจิบได้เรื่อยๆ แบบสุดเพลิน!
นอกจากที่บอกมา ร้านนี้ยังมี คราฟเบียร์ หลักๆ อีก 5 ชนิดให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติอันสุดแสนจะชื่นใจกัน ทั้ง Snowy, Lager, Kopper, 33 Pale Ale และเบียร์แบบไม่มีแอลกอฮอล์อย่าง Hof แล้วยังมี Special Menu ที่จะมีการครีเอทขึ้นมารับเทศกาลพิเศษต่างๆ ให้ชิมกันเรื่อยๆ ตลอดทั้งปีเลยด้วยนะ แต่ถ้าคุณชอบความท้าทาย และมั่นใจว่าตัวเองคอแข็งพอ ขอแนะนำให้จัด Beer Bomb ดู เชื่อว่าแก้วนี้จะตอบโจทย์คนรักแอลกอฮอล์ทั้งหลาย เพราะในหนึ่งแก้วจะได้ชิมทั้ง คราฟเบียร์ และเหล้าที่คุณโปรดปราน ด้วยการทิ้งบอมบ์เหล้าหนึ่งช็อตลงไปใน คราฟเบียร์ แก้วใหญ่ เคล็ดลับคือเมื่อหย่อนแล้วควรต้องกระดกให้หมดแก้วไปเลยถึงจะสะใจนะ แก้วนี้ถ้าไปแฮ็งค์เอ๊าท์กับกลุ่มเพื่อนคือห้ามพลาดเลยละ บอกได้คำเดียวว่า ‘มัน’ แน่นอน!
จากบรรดา คราฟเบียร์ ที่น่าสนใจ ขอมาต่อกันกับเมนูที่อยากชวนให้ออเดอร์มากินคู่ คราฟเบียร์ ของร้านนี้กันบ้างดีกว่า ที่ EST.33 นั้นเน้นเสิร์ฟเมนูฟิวชั่นที่คัดสรรวัตถุดิบแบบพรีเมี่ยมมาปรุงให้ได้รสอร่อยถูกปากคอ คราฟเบียร์ ชาวไทย จานแรกที่บอกเลยว่าสายเนื้อพลาดไม่ได้ ขอแนะนำให้ลอง
ริบอายเสือร้องไห้
จานนี้ใช้เนื้อริบอายชิ้นใหญ่ๆ ที่เท็กซเจอร์ทั้งนุ่มและชุ่มฉ่ำ นำไปย่างจนได้ความสุกแบบพอดีที่ด้านในยังคงความหวานของเนื้อวัวเอาไว้ได้แบบเต็มที่ ด้านนอกหอมกรุ่นสีสวยได้ใจ ตัวเนื้อนั้นมีรสชาติจากการหมักจนรสเข้าเนื้อในทุกอณู กินเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว แต่ถ้าชอบความจัดจ้านเค้าก็มีน้ำจิ้มแจ่วเสิร์ฟเคียงมาให้ เนื้อนุ่มๆ รสเข้มข้น กินกับ คราฟเบียร์ เย็นเจี๊ยบชื่นใจ อร่อยเพลินแบบเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!
สแกลล็อปผัดเรือโป๊ะ
คืออีกหนึ่งจานที่คนรักความจัดจ้านแบบไทยๆ ต้องลองชิม จานนี้หอมน่ากินด้วยกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพรแบบไทยๆ ที่ให้รสเผ็ดร้อนอร่อยแบบหยุดไม่ได้ ยิ่งเจอกับสแกลล็อปชิ้นโตๆ หนานุ่มเต็มคำเนื้อหวานฉ่ำเพราะความสดใหม่ ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยกันแบบดับเบิ้ลไปเลยละ ตักกินหนึ่งคำ แล้วซด คราฟเบียร์ เย็นฉ่ำตามลงคอไปดับความเผ็ดร้อนของเมนูนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกความอร่อยที่จานเดียวไม่มีทางพอแน่นอน
หมึกผัดเบียร์ดำ
เมนูสุดท้ายที่จะแนะนำกันในคราวนี้ คือเมนูสุดครีเอทที่กินเพลินมาก อย่างแรกที่สะดุดตาก็ต้องยกให้กับสีสันเข้มข้นสาแก่ใจ เพราะเมนู หมึกผัดเบียร์ดำ จานนี้ เค้าใช้เนื้อหมึกหั่นเป็นวงใหญ่ๆ เนื้อหนานุ่มเคี้ยวง่ายแบบสู้ฟันกำลังดี ผัดคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงสูตรลับจนได้รสอร่อยเข้มข้นแบบที่คนไม่กินเผ็ดก็ยังกินได้ เคล็ดลับของจานนี้คือเบียร์ดำที่ช่วยเพิ่มทั้งกลิ่น รส และสีสันให้อร่อยโดนใจ เป็นหนึ่งเมนูที่กินกับ คราฟเบียร์ เย็นๆ ได้แบบยาวๆ เลย
และทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่าง 3 เมนูฟิวชั่นที่แนะนำให้สั่งมาชิมกันเมื่อมาที่ร้าน EST.33 ที่นี่ยังมีเมนูเด็ดๆ น่าชิมอีกเพียบเลยนะ ช่วงนี้จนถึงวันที่ 7 ม.ค.67 แนะนำว่าควรแวะไปจัดเซ็ตโปรโมชั่นที่ชื่อว่า Dark Wednesday กันดูนะ เพราะเซ็ตนี้จะเสิร์ฟเครื่องดื่มใหม่ที่มาใน Theme สีดำสนิทภายใต้ชื่อว่า ‘Wednesday’ คู่มากับ Smoked Meat Platter ซึ่งเป็นเนื้อรมควัน 3 แบบ 3 สไตล์ ที่ได้เชฟเอิ๊ก แห่ง The Pit Master มาจับคู่ความอร่อยให้ แวะไปชิมกันได้ในราคา 990 บาทเท่านั้น! ยิ่งทางร้านเค้ามีวงดนตรีสดฝีมือดีมาเล่นดนตรีหลากหลายแนวให้ฟังกันทุกวันด้วยนะ รับประกันว่ามาที่นี่จะนั่งกันได้เพลินๆ จิบ คราฟเบียร์ กันได้ยาวๆ แน่นอน
นอกจากนี้ สำหรับที่ สาขา CDC จะมีลานเบียร์ให้ชิลกันได้ถึง 31 ธันวาแล้ว ในคืนเคาทน์ดาวน์รับปีใหม่ยังมีคอนเสิร์ตของ Earth ให้ชมส่งท้ายปีกันด้วยนะ ส่วนที่ The Nine คุณจะได้เคาทน์ดาวน์แบบสุดฟินกับคอนเสิร์ตของ Aliz อากาศดีๆ แบบนี้ยิ่งเหมาะกับการแวะมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ กันแบบสุดๆ เชียวละ
- แผนที่ ร้าน EST.33 สาขา CDC เลียบทางด่วน รามอินทรา >> https://goo.gl/maps/2wrDkKVC1kf3k2Nv5
- แผนที่ ร้าน EST.33 สาขา The Nine พระรามเก้า >> https://goo.gl/maps/UueGAxhanWzYGgwe6
- เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.