เบื่อฝนตกรถติดช่วงเย็น? แวะไป แฮงเอาท์ ร้านเด็ดสุดชิลล์แก้เซ็งกันดีกว่า!
หน้าฝนมาถึงทีไร เชื่อว่าหลายคนต้องเบื่อเมื่อเห็นเมฆดำทะมึนตั้งเค้ามาในช่วงใกล้เลิกงาน เพราะนี่คือสัญญาณว่ากว่าจะฝ่ารถติดกลับถึงบ้านก็คงต้องทนท้องร้องเหนื่อยล้าอยู่บนถนนกันอีกนานแสนนานเชียวละ วันนี้เราจึงขอชวนหาพิกัดปักหมุด แฮงเอาท์ ชิลล์ ปล่อยให้คนอื่นเข้าคิวรถติดกันบนถนนต่อไป ส่วนคุณก็จะได้แวะไปนั่งอิ่มอร่อยฟังดนตรีสดเพลินๆ แล้วค่อยกลับบ้านตอนการจราจรเบาบางแบบสบายๆ กับร้านสุดคูลบรรยากาศดีที่ชื่อ ‘EST.33’
ข้อดีของการมา แฮงเอาท์ ที่ร้านนี้ ก็คือ เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเพื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลักเท่านั้น เพราะที่ร้านนี้เค้ามีทั้งเมนูกินเล่นเพลินๆ และจานหลักอร่อยๆ ที่กินเป็นมื้อดินเนอร์ของวันกันแบบอิ่มท้องได้สบายๆ โดยที่ร้านนี้จะเน้นเมนูฟิวชั่นที่ให้รสจัดจ้านแบบไทยๆ แต่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีพรีเมี่ยมเป็นหลัก แถมเมนูส่วนใหญ่ยังเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่มีให้ชิมกันเฉพาะร้านนี้เท่านั้นด้วยนะ รับรองว่าบรรดาสายกินทั้งหลายถ้าได้แวะมาที่ EST.33 คง ได้อร่อยกันแบบจุใจแน่นอน
ถ้ายังนึกไม่ออกว่าเมื่อมา แฮงเอาท์ กันที่ร้านนี้แล้วจะมีอะไรให้ชิมบ้าง วันนี้เราคัดเลือกเมนูสุดปังที่แนะนำว่ามาแล้วต้องชิมมาฝากกันตรงนี้แล้วละ เริ่มจากเมนูกับแกล้มกินเล่นเพลินๆ อย่าง ปลาหมึกทอดแป้งเบียร์คลุกไข่เค็ม ที่ใช้หมึกสดเนื้อเด้งสู้ฟันมาปรุงรสให้เข้มข้นไม่เหมือนใครโดยใช้ของดีประจำร้านอย่าง ‘เบียร์’ มาเพิ่มความโดดเด่นให้จานนี้แตกต่างน่าสนใจ จนต้องแนะนำว่าควรสั่งมาลองชิมกันให้ได้เลยนะ แต่ถ้ามากันหลายคนหน่อย แนะนำให้จัดเซ็ต Taste of EST.33 มาชิมกันแบบจัดเต็มจะคุ้มกว่า เพราะนอกจากจะมีเมนูปลาหมึกทอดแป้งเบียร์คลุกไข่เค็มให้ชิมกันแล้วนะ ในเซ็ตนี้ยังมีปีกไก่หมักเบียร์และเห็ดสวรรค์โรยข้าวมอลต์คั่วที่กินเพลินไม่แพ้กัน แถมยังมีเบียร์สดอีก 3 ชนิดเสิร์ฟมาให้ในเซ็ตอีกด้วยละ บอกเลยว่าเซ็ตนี้กินเพลินแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูที่คนรักความจัดจ้านน่าจะถูกใจ ก็คงต้องยกให้กับเมนูหมกปลาแซลมอน ซึ่งเป็นเมนูฟิวชั่นที่มาในหน้าตาทันสมัย มาพร้อมกลิ่นเครื่องแกงที่หอมยั่วน้ำลาย แถมยังให้รสจัดจ้านแบบไทยๆ อีกด้วยนะ จะสั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ แบบเพลินๆ หรือจะกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็เด็ดนักละ เป็นอีกจานที่เราอยากแนะนำให้สั่งมาลองชิมกัน
ปอเปี๊ยะออส่วนคืออีกหนึ่งจานกินเพลินที่น่าสนใจ เพราะ EST.33 เค้าจับเมนูที่หลายคนคุ้นเคยจานนี้มาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่จนแลดูแปลกตา กลายเป็นออส่วนรสเข้มข้นที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ แต่กินง่ายเหมาะกับบรรยากาศ แฮงเอาท์ ชิลล์ๆ ที่สุดเลยเชียวละ ใครมาเป็นครอบครัวที่มีหลายช่วงวัย จานนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยนะ เป็นจานอร่อยที่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่ก็กินเพลินจริงๆ
จานต่อมาเป็นเมนูที่อยากบอกว่าคนรักเนื้อต้องห้ามพลาด กับสะเต๊ะเนื้อหม่าล่าที่เสิร์ฟเนื้อชิ้นหนานุ่มเต็มคำหมักเครื่องเทศจนหอมเข้าไปในทุกอณู ย่างแบบสุกพอดีจนได้ชิ้นเนื้อหอมกรุ่นแต่ยังคงความชุ่มฉ่ำไม่แห้งเหนียว ราดซอสรสเข้มข้น เคียงด้วยอาจาดถั่วตัดและขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน เป็นอีกหนึ่งเมนูธรรมดาที่หลายคนคุ้นเคย แต่ถูกเชฟจับมาแต่งตัวใหม่กลายเป็นจานที่ดูทันสมัย ทั้งอร่อยและน่าสนใจจนไม่อยากให้พลาดกันเลยเชียว
ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเอาใจคนรักเนื้อกันต่อ กับเมนูลิ้นวัวชิ้นหนาเต็มปากเต็มคำ ผ่านการตุ๋นนานถึง 6 ชั่วโมง จนได้ลิ้นวัวนุ่มละลายในปาก แถมยังมีรสชาติและกลิ่นหอมเครื่องเทศซึมเข้าเนื้อในทุกอณู เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสพะโล้รสเข้มข้นและพริกน้ำส้มบดละเอียดที่ทั้งช่วยตัดเลี่ยนและเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านถึงใจ เป็นอีกหนึ่งจานเด็ดที่กินแกล้มกับเครื่องดื่มเย็นๆ เวลามา แฮงเอาท์ กับเพื่อนก็ได้ หรือจะกินเป็นกับข้าวก็อร่อยได้ใจแน่นอน
ต่อกันด้วยเมนูอาหารจานเดียวที่มาในสไตล์ฟิวชั่นสวยเตะตา และเป็นอีกเมนูที่สายเนื้อต้องแวะมาลองชิมกันให้ได้ กับเมนูข้าวซอยที่นำเนื้อน่องลายซึ่งผ่านการตุ๋นยาวนานถึง 6 ชั่วโมง มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำทั้งหนาทั้งนุ่มชุ่มฉ่ำด้วยรสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ เสิร์ฟกับเส้นเฟตตูชินี่ที่ผ่านการลวกแบบสุกพอดี ใครเป็นสายเนื้อที่หลงใหลเมนูอาหารเหนืออย่างข้าวซอยและได้แวะเวียนมา แฮงเอาท์ กันที่นี่ ขอย้ำอีกทีว่าจานนี้ต้องโดน!
ปิดท้ายเมนูแนะนำกันด้วยความจัดจ้านแบบไทยๆ กับเมนูปลากรายผัดพริกโบราณ จานเด็ดที่มาพร้อมกับรสชาติร้อนแรงจัดเต็มด้วยสมุนไพรไทย จานนี้ใช้เนื้อปลากรายขูดปั้นเป็นชิ้นพอดีคำกินง่าย ผสมผสานกับความหอมยั่วน้ำลายของพริกขี้หนูและกระเทียมที่ผ่านการผัดจนกรอบหอม คลุกเคล้าจนรสชาติและกลิ่นความแซ่บเคลือบเนื้อปลาจนทั่ว จานนี้ใครชอบรสจัดสามารถกินเป็นกับแกล้มคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ ได้แบบสะใจ แต่ถ้าใครอยากได้รสชาติที่กลมกล่อมละมุนลงมาอีกนิด แนะนำให้สั่งข้าวสวยร้อนๆ มากินคู่กันจะฟินมาก!
และเพราะว่า EST.33 คือร้านที่อยู่ในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่ ที่นี่จึงมีเครื่องดื่มเจ๋งๆ ให้สาย แฮงเอาท์ ได้ยกแก้วกันแบบจุใจ เริ่มต้นด้วยของเด็ดที่พลาดไม่ได้อย่างเบียร์สดและคราฟท์เบียร์หลากหลายรสชาติ ซึ่งทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับโลก จนออกมาเป็นเบียร์ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคือทางร้านจะมีคราฟท์เบียร์รสใหม่ๆ ออกมาให้คนรักการดื่มได้แวะมาชิมกันตลอดเวลา ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เครื่องดื่มมีฟองต้องมาลองกันให้ได้เชียว!
และสำหรับเหล่าสาวๆ ที่อาจจะชอบเครื่องดื่มซึ่งรสชาติละมุน สดชื่น ดื่มง่าย ที่ EST.33 ก็มีค็อกเทลที่น่าสนใจรอให้คุณแวะไปชิมกันได้แบบสาแก่ใจเลยละ หนึ่งในนั้นคือ The ESTer ซึ่งมีส่วนผสมสุดลงตัวของน้ำราสพ์เบอร์รี่ วานิลลา เลมอน และวอดก้า ให้รสชาติสดชื่นดื่มง่าย กระซิบให้เลยว่าชิมแล้วจะติดใจจนเผลอสั่งแก้วต่อๆ ไปแบบไม่รู้ตัว!
นอกจากนั้นที่ร้านนี้ยังมีเมนู Fruity Beer Cocktail อีกหลายรสชาติให้เลือกดื่มกัน ใครไม่ถนัดดื่มเบียร์แบบจัดหนักขอแนะนำให้ลองชิมเมนูนี้ดู เพราะจะเป็นค็อกเทลเบียร์ที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ทำให้ดื่มได้ง่ายกว่า แถมยังมีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ หอมๆ ของผลไม้แต่ละชนิดมาผสมทำให้รสชาติสดชื่นไม่หนักเกินไป ไม่ว่าจะเป็นพีช เสาวรส สตรอว์เบอร์รี่ หรือลิ้นจี่ รับรองว่านี่จะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่สาวๆ ซึ่งมา แฮงเอาท์ ที่ร้านนี้ติดใจกันแน่นอน
เล่ายืดยาวมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มอยากรู้แล้วสิว่าร้าน EST.33 น่ะ ตั้งอยู่ที่ไหน ก็ขอชี้เป้าให้เลยว่าร้านนี้เค้ามีอยู่สองสาขาสองทำเล นั่นคือที่ The Nine พระราม 9 และที่ CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา บรรยากาศดี บอกเลยว่าเป็นสองทำเลที่เหมาะกับการมา แฮงเอาท์ ทั้งคู่เลยละ โดยสาขา The Nine นั้นแม้จะมีพื้นที่ร้านเล็กกว่า แต่ก็สามารถเดินทางได้สะดวกสบายเพราะมีรถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน ด้านในร้านของสาขานี้ก็จะให้อารมณ์ดิบๆ เท่ๆ เหมือนเรากำลังนั่ง แฮงเอาท์ กันอยู่กลางโรงงานผลิตเบียร์เลยละ ที่นี่เน้นการใช้โลหะเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง กลางร้านเป็นถังบ่มเบียร์ที่ตั้งเรียงกันแบบน่าตื่นตาตื่นใจถึง 12 ถัง มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับคนที่มองหามุมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแบบชิลล์ๆ สบายๆ ถ้าได้ชวนเพื่อนหรือคนรู้ใจมา ที่สาขานี้ รับรองว่ามัน!!
สำหรับคนที่ชอบร้าน แฮงเอาท์ ซึ่งมีบรรยากาศโปร่งสบาย เชื่อว่าน่าจะถูกใจร้าน EST.33 สาขาเลียบทางด่วนรามอินทราแน่นอน เพราะที่สาขานี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บริเวณรอบร้านยังมีสนามหญ้า สระน้ำ และน้ำพุ ช่วยเติมบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ด้านในตัวร้านยังคงไม่ทิ้งคอนเซ็ปท์การตกแต่งในกลิ่นอายที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้นั่งจิบเครื่องดื่มกลางโรงงานผลิตเบียร์ยังไงยังงั้น หากแต่ข้อแตกต่างก็คือกลางร้านนี้มีการนำถังบ่มเบียร์แบบคริสตัลสีทองหรูหรามาตั้งประดับไว้ นอกจากนั้น ที่สาขานี้ยังมีมุมให้เลือกนั่งชิลล์กันได้ในหลากหลายบรรยากาศ ทั้งโซนเอ๊าท์ดอร์ริมน้ำ และโซนอินดอร์ที่มาในฟีลโปร่งสบาย นอกจากจะนัดเพื่อนมานั่ง แฮงเอาท์ จิบเครื่องดื่มเชียร์ฟุตบอลกันได้แล้ว สาขานี้ยังเหมาะกับคนที่อยากพาครอบครัวมาชิมอาหารอร่อยๆ ในบรรยากาศดีๆ ด้วยนะ ใครสนใจเตรียมปักหมุดมาเช็คอินที่นี่กันได้เลย
และนี่คือร้านเด็ดในสองบรรยากาศที่เราเอามาแนะนำกันในคราวนี้ บอกได้เลยว่า EST.33 คือร้าน แฮงเอาท์ ที่มีครบทั้งบรรยากาศดีๆ ดนตรีสดเพราะๆ และเมนูอาหารที่เหมาะจะเป็นทั้งกับแกล้มและอาหารจานหลักชนิดกินอิ่มกันได้แบบเพลินๆ รวมไปถึงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติให้นั่งจิบกันได้แบบยาวๆ เชียวละ ใครยังไม่เคยแวะไป บอกได้เลยว่าน่าเสียดายสุดๆ เลยนะ ลองไปเช็คอินกันที่ EST.33 ดูซักครั้ง เชื่อว่าร้านนี้จะกลายเป็นแหล่ง แฮงเอาท์ สุดปังอันดับต้นๆ ในลิสต์โปรดของคุณและเพื่อนไปอีกยาวๆ กันแน่นอน
แผนที่ แฮงเอาท์ ร้าน EST.33 สาขา CDC : Google Maps
แผนที่ แฮงเอาท์ ร้าน EST.33 สาขา The Nine พระรามเก้า : Google Maps
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.