กินเบียร์คนเดียว กับแกล้มสุดเพลิน กับ 10 เมนูใหม่ ฉลอง EST.33 10+3 Anniversary

Home » Blog » กินเบียร์คนเดียว กับแกล้มสุดเพลิน กับ 10 เมนูใหม่ ฉลอง EST.33 10+3 Anniversary

เมื่อคุณอยากมีเวลาพักผ่อนกับเครื่องดื่มเย็นๆ ในบรรยากาศดีๆ แบบฉับพลัน ชนิดที่กว่าจะรอให้เพื่อนตามมาก็ไม่ทันใจ หรือถ้าคุณเป็นคนที่มีสไตล์ Introvert ชอบการได้ใช้เวลาส่วนตัวแบบชิลล์ๆ ไม่วุ่นวาย การไปนั่งกินเบียร์คนเดียว แกล้มอาหารอร่อยๆ ฟังเพลงเพราะๆ ดื่มด่ำกับโลกของตัวเอง จึงเป็นทางเลือกของช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายคนหลงใหลได้ปลื้มไม่น้อยเลยเชียวละ!

หนึ่งในพิกัดที่อยากชวนให้คนชอบ กินเบียร์คนเดียว มาลองปักหมุดกันดูซักที ก็คือที่ร้าน EST.33 ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 สาขา คือที่ สาขา The Nine พระราม 9 และ สาขา CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งทันทีที่คุณก้าวเท้าเข้ามาในร้านไม่ว่าจะเป็นสาขาไหน สิ่งแรกที่จะต้องสะดุดตาก็คงเป็นการนำถังบ่มเบียร์มาตกแต่งเอาไว้ใจกลางร้าน โดย EST.33 นับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการผลิตคราฟท์เบียร์ไทย ซึ่งใช้กรรมวิธีที่พิถีพิถัน คัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพดี จนออกมาเป็นคราฟท์เบียร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าคุณจะไปนั่งกินเบียร์คนเดียว ไปกับกลุ่มเพื่อน หรือไปกับคนรู้ใจ ก็สัมผัสรสชาติของความฟินกันได้แบบเต็มๆ แน่นอน

ปีนี้เป็นการครบรอบปีที่ 10 + 3 ของ EST.33 กันทั้งที ทางร้านจึงมีแคมเปญพิเศษกับ 10 เบียร์คราฟท์รสเลิศที่มีให้ชิมกันเฉพาะในร้าน EST.33 เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Lager, Kopper, Snowy, 33 Pale Ale, Dark และใหม่ล่าสุดกับ ‘Alarm’ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไป และยังจะมีคราฟท์เบียร์เจ๋งๆ ทยอยออกมาให้คอเบียร์ลองชิมกันได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะทำให้การไปกินเบียร์คนเดียวยิ่งแฮปปี้ ก็คือการมีอาหารรสอร่อยกินคู่ไปด้วยกัน และในโอกาสครบรอบปีที่ 10 + 3 ของร้าน ทาง EST.33 จึงมีการเพิ่ม 10 เมนูเด็ด ซึ่งเชฟได้รังสรรค์ขึ้นมาจากไอเดียที่น่าสนใจ จนเกิดเป็นเมนูใหม่ที่จะเปิดโลกแห่งรสชาติความอร่อยให้คุณได้สัมผัสกัน

10 เมนูใหม่ กับแกล้ม กินเบียร์คนเดียว

1.     บร็อคโคลี่หนำเลี้ยบ

ที่นำบร็อคโคลี่สดมาชุบแป้งผสมเบียร์ Alarm ทอดให้กรอบ แล้วโรยหน้าด้วยหนำเลี้ยบครัมเบิ้ลและพาร์เมซานชีส จิ้มกับซอสต๊อดศรีราชามาโย ให้รสชาติอร่อยแปลกใหม่น่าสนใจ

2.     Finger Lickin Fries

วาฟเฟิลฟรายชุบแป้งกล้วยทอด ทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสทรัฟเฟิลมาโยอร่อยเพลินจนหมดจานแบบไม่รู้ตัว

3.พล่าแซลมอน

เนื้อแซลมอนเบิร์นไฟ ราดด้วยน้ำพล่ารสแซ่บหอมสมุนไพร ได้เท็กซเจอร์กรุบกรอบจากหอมเจียวและพริกแห้งทอด รสชาติจัดจ้าน กินกับเบียร์เย็นๆ เข้ากันสุดๆ เชียวละ

4.น้ำตกเบคอนรมควัน

เมนูฟิวชั่นที่นำเบคอนสเต็กชิ้นเต็มคำมาเจอกับน้ำตกรสจัดจี๊ดสะใจ ถ้าไม่สั่งมาลองเสียดายแน่นอน

5.สะเต๊ะเวียดนาม

ไก่สะเต๊ะเสิร์ฟพร้อมข้าวเกรียบเวียดนาม หอมอร่อยลงตัว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่กินเพลินมาก

6.สลัดกุ้งฝอยทอดกรอบกับมะม่วงน้ำดอกไม้

ความลงตัวของเท็กซเจอร์กรุบกรอบจากกุ้งฝอยทอด มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะเขือเทศเชอรี่ และเรดแรดิช ปิดท้ายด้วยน้ำสลัดขิง กินรวมกันให้รสชาติสดชื่นไม่ซ้ำใคร

7.E-san Capellini

พาสต้าคาเปลลินี่ ผัดกับหมูสับ เพิ่มกลิ่นและรสด้วยสมุนไพรไทย ให้รสจัดจ้านแบบไทยผสมอิตาเลี่ยนได้เป็นอย่างดี

8.พิคานย่ากับเกลือ 3 ภาค

 เนื้อติดมันส่วนสะโพก นำไปย่างจนหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมมันบดทรัฟเฟิลและเกลือจาก 3 ภาค คือเกลือจากน่าน ปัตตานี และสมุทรสาคร ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ใครเป็นสายเนื้อจานนี้แนะนำว่าต้องลอง!

9.Bisque Bag

เนื้อปลากะพงราดด้วยน้ำซอสบิสค์จากซีฟู้ดผสมสมุนไพรไทย เพิ่มรสเปรี้ยวด้วยมะนาวฝาน นำไปอบ ก่อนเสิร์ฟมาพร้อมถุง เพื่อให้ลูกค้าได้ลงมือแกะและสัมผัสกลิ่นหอมแตะจมูกยั่วน้ำลายด้วยตัวเอง

10.ข้าวกล้องขยำ

ข้าวกล้องหุงกับน้ำสต็อคบิสค์ให้รสและกลิ่นที่เข้มข้น ท้อปด้วยกุ้งตัวโตเต็มคำ เนื้อปลาหมึกยักษ์ และไข่ต้มยางมะตูม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเข้ม เมื่อคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จะได้เมนูเด็ดที่อร่อยและสุดแสนจะลงตัว

3 เมนูพิเศษ จาก Top 3 เชฟชื่อดังของเมืองไทย

นอกจากนี้ยังมี 3 เมนูพิเศษ จาก Top 3 เชฟชื่อดังของเมืองไทยมาให้คนรักเบียร์ได้ลองชิมกัน อย่างเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินสตาร์ที่มาพร้อมกับเมนูแกงกะหรี่หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง ที่ทั้งสวยและรสชาติเข้มข้นถึงใจ

เชฟป้อม เชฟกระทะเหล็กเจ้าของฉายา ‘เจ้ายุทธจักรอาหารจีนร่วมสมัย’ กับเมนูซี่โครงหมูปิติ ที่ใครกินก็ติดใจแน่นอน

เชฟอ๊อตโต แชมป์ Top Chef Thailand Season 2 กับเมนูสไตล์เม็กซิกันรสจัดจ้านที่ลงตัวสุดๆ เมื่อกินกับเบียร์เย็นๆ อย่าง Mexican fried rice and green pepper relleno

และทั้งหมดนี้คือ 10 + 3 เมนูสุดสเปเชียล ที่รับรองเลยว่าสั่งมาชิมแกล้มเบียร์เย็นๆ แล้วไม่มีผิดหวัง ไม่ว่าคุณจะไปชิลล์กับกลุ่มเพื่อนก๊วนใหญ่ หรือไปนั่งดื่มด่ำกับคราฟท์เบียร์รสดีตามลำพัง ก็เชื่อว่าจะยังได้สัมผัสความประทับใจที่ EST.33 ไปแบบเต็มๆ แน่นอน

สัมผัสความอร่อยในแบบไม่เหมือนใครได้แล้วทุกวัน

  • EST.33 ร้านอาหารรามอินทรา CDC

โทร. 085-660-1933
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.
Google Map >> https://goo.gl/maps/2wrDkKVC1kf3k2Nv5

  • EST.33 ร้านอาหาร The Nine พระราม 9

โทร.089-205-1933
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.
Google Map >> https://goo.gl/maps/UueGAxhanWzYGgwe6